วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

การติดตั้งโปรแกรม SHOW ME

1. ดับเบิ้ลคลิกที่ ไอคอน Show me



2. จะขึ้น Dialog box welcome ให้คลิก Next


3. จะขึ้น Dialog box Choose Destination Location ให้คลิก Next


4. จะขึ้น Dialog box Select Program Manager Group ให้คลิก Next


5. จะขึ้น Dialog box Start Installation ให้คลิก Next


6. จะขึ้น Dialog box Installation Complete ให้คลิก Finish

7. เมื่อลงโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกไอคอน ที่หน้า Desktop เมื่อเข้ามาในโปรแกรม ให้
คลิกเลือก Buy ที่มุมด้านขวาบน

8. โดยไป Cope E-mail และ Serial จาก key Showme

9. ให้ใส่ E-mail และ Serial

10. คลิก OK
ลิงค์ภายในกลุ่ม
ส่วนที่ 1 การติดตั้งโปรแกรม
ส่วนที่ 2 แนะนำโปรแกรม
ส่วนที่ 3 การสร้างชิ้นงานใหม่
ส่วนที่ 4 การใส่ Effect

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

การศึกษากับมัลติมีเดีย

พัฒนาการและชื่อเรียกเกี่ยวกับการใช้สื่อประสมในการศึกษา
สื่อประสม หรือ มัลติมีเดีย ในศตวรรษที่ 21 นี้ ไม่ได้จำกัดแต่เพียงเรื่องของภาพและเสียงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานแต่ลำพัง แต่ยังหมายถึงระบบอินเตอร์เน็ตซึ่งพัฒนาขึ้นจากการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ประสานเข้ากับเทคโนโลยีโทรคมนาคม เกิดเป็นระบบที่มีลักษณะเฉพาะและมีศักยภาพสูงระดับหนึ่ง
การนำคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียมาใช้ในการศึกษาจริงๆ นั้นเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งหมายถึงการนำมาใช้ในการช่วยสอนของครู จึงเรียกการใช้มัลติมีเดียเพื่อการศึกษาว่า สื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือ CAI ซึ่งย่อมาจาก Computer Assisted Instruction ในบางประเทศใช้ CAL ซึ่งย่อมาจาก Computer Assisted learning หรือ CML ซึ่งย่อมาจาก Computer Managed Learning ทั้งหมดนี้ก็มีความหมายคล้ายกันก็คือ การใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือช่วยในการเรียนการสอน คอมพิวเตอร์ยังได้ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยในการฝึกอบรมบุคลากรในการเรียนรู้วิธีการทำงาน การใช้เครื่องมือ เครื่องจักร หรืออื่นๆ และกำหนดใช้คำว่า CBT ซึ่งมาจากคำว่า Computre Based Training หมายถึง สื่อคอมพิวเตอร์ที่ช่วยในการฝึกอบรมในหลายประเทศใช้คำว่า CBL ซึ่งมาจากคำว่า Computer based Learning คือการเรียนรู้โดยอาศัยเรียนจากโปรแกรมที่ออกแบบไว้บนจอคอมพิวเตอร์นั่นเอง การนำเอาสื่อหลากหลาย คือ เสียง ภาพกราฟิก ภาพเคลื่อนไหว วีดิทัศน์ ดนตรี มาใช้ร่วมกันและควบคุมการแสดงผลด้วยซอฟแวร์โปรแกรมคอมพิวเตอร์นั้นเริ่มทำได้และนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงๆ ในกลางทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา ผู้ใช้จะได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินขณะเรียนรู้หรือศึกษาเรื่องต่างๆ จากการใช้สื่อมัลติมีเดียเหล่านี้ จึงเกิดเป็นคำศัพท์ใหม่คือ คำว่า edutainment และ infotainment คำว่า edutainment มาจากคำว่า education (การศึกษา) รวมกับคำว่า entertainment (การบันเทิง) ส่วนคำว่า infotainment มาจากคำว่า Information (ข่าวสาร) รวมกับ entertainment (การบันเทิง) นั่นเอง แผ่นซีดีรอมที่โด่งดังในชุดแรกๆ ในตลาดซีดีรอมเพื่อการศึกษา ได้แก่ แผ่นซีดีรอมของบริษัท Broderbund บริษัท The Learning Company บริษัท Davison and Associates และ บริษัท Microsoft เป็นต้น นับแต่นั้นมามีผู้ผลิตซีดีรอมมัลติมีเดียออกจำหน่ายมากกว่า 20,000 เรื่อง (ในค.ศ.1998) ในจำนวนนี้เป็นซอฟแวร์โปรแกรมทางด้านการศึกษาและประเภทใช้อ้างอิงค้นคว้ามากว่าครึ่งหนึ่ง ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีโทรคมนาคมจนเกิดพัฒนาเป็นระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนั้นนับเป็นการนำมัลติมีเดียมาใช้เพื่อการศึกษาในแนวคิดใหม่ การเรียนรู้แบบเดิมที่ องค์ความรู้ถูกบรรจุไว้เบ็ดเสร็จตายตัวบนซีดีรอมเปลี่ยนไปสู่การสนับสนุนการเรียนรู้และแสวงหาข้อมูลข่าวสารจากแหล่งต่างๆหลากหลาย อินเตอร์เน็ตทำให้เกิดแหล่งข้อมูลมัลติมีเดียทางการศึกษาขนาดใหญ่ เราสามารถเรียนรู้ ระหว่างกันเอง เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ หรือจากห้องสมุด จากพิพิธภัณฑสถาน และ องค์กรต่างๆ ทั่วโลกในระบบอินเตอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ต เป็นความก้าวหน้าก้าวสำคัญของพัฒนาการการใช้คอมพิวเตอร์และมัลติมีเดีย มีผู้เรียกระบบนี้ว่า “ทางด่วนข้อมูล” (Information Superhighway) เพราะผู้ใช้อินเตอร์เน็ตสามารถค้นหาและรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทั่วโลกโดยผ่านระบบนี้ได้อย่างรวดเร็ว การติดต่อสื่อสารแบบสองทางที่รวดเร็วนี้นำมาวึ่งระบบปฏิสัมพันธ์ที่ระบบ การศึกษาทางไกล (tele-education) จะสามารถพัฒนาไปสู่รูปแบบการเรียนการสอนที่สามารถตอบโต้กันได้สมบูรณ์อีกด้วย
ที่มา : http://gotoknow.org/blog/canscience/36308